5 TIPS ABOUT ความดัน กับการออกกำลังกาย YOU CAN USE TODAY

5 Tips about ความดัน กับการออกกำลังกาย You Can Use Today

5 Tips about ความดัน กับการออกกำลังกาย You Can Use Today

Blog Article

ไม่ควรออกกำลังกาย ที่ต้องใช้ท่าเกร็งค้างนาน เช่น ท่าแพลงก์ ท่าโยคะที่ศีรษะต่ำกว่าตัว ท่าซิทอัพ

การตระหนักรู้ในตนเองเพื่อรักษาสุขภาพจิตที่ดี

เงื่อนไขและระยะทางการจัดส่งสินค้าภายในวันฟรี!!

ความดันสูง ออกกำลังกายด้วยการวางจ๊อกกิ้ง เป็นประจำ ส่งผลทำให้ความดันโลหิตดีขึ้นได้ เพราะการวิ่ง เป็นการช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้หลอดเลือดขยายตัว มีความยืดหยุ่นมากขึ้น หัวใจไม่ต้องใช้แรงบีบมากในการส่งเลือด ความดันโลหิตจึงต่ำลง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง อีกทั้งช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอล ป้องกันความเสี่ยงการเกิดภาวะหัวใจวายได้ด้วย

ความดันช่วงบนเป็นแรงดันเลือดที่เกิดขึ้นในขณะหัวใจบีบตัว คล้ายๆกับทำงานของปั๊มน้ำ เมื่อหัวใจบีบตัวในครั้งหนึ่งจะเกิดแรงดันเลือดในระบบหลอดเลือดแดง ยิ่งถ้าหัวใจบีบแรงเท่าไรแรงดันเลือดจะมากขึ้นเท่านั้น เมื่อหัวใจคลายตัว หลอดเลือดแดงที่ถูกดันให้ขยายออก ในขณะที่หัวใจบีบตัวจะคลายตัวทำให้เกิดแรงดันเลือดจากหลอดเลือดแดงที่เรียกว่าความดันช่วงล่าง ความดันช่วงล่างจะทำให้เลือดยังไหลต่อไปได้แม้หัวใจจะคลายตัว นับว่าเป็นความฉลาดของร่างกายที่สามารถทำให้เลือดไหลในระบบได้ตลอดเวลาโดยไม่มีการหยุด

ออกกำลังกายอย่างพอดีมีประโยชน์อย่างไร

ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด

ปัจจัยเสี่ยงของความผิดปกติของเลือด

ควรออกกำลังในแต่ละท่าอย่างช้า ๆ และถูกจุดที่บริหาร ไม่ควรรีบจนเกินไป เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บ

แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านการรับประทานอาหารเบื้องต้น โดยลดอาหารที่มีโซเดียมสูง เน้นรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ธัญพืช ปลาที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่ดีต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดง ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการใช้ยาร่วมด้วย เพื่อช่วยปรับค่าความดันโลหิตให้ลดลงอยู่ในระดับปกติ 

สุขภาพการมองเห็นและการได้ยินในผู้สูงอายุ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว วันนี้เราจึงมาแนะนำกันว่าควรจะออกกำลังกายอย่างไรดีในผู้ที่เป็นโรคทั้งสอง

กรดไหลย้อน ความดัน ตกขาว และ ประจำเดือน ต่อมลูกหมาก มีบุตรยาก ริดสีดวงทวาร สิว เบาหวาน ไขมันพอกตับ

ความดันโลหิตสูงอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพโดยรวม เมื่อปล่อยทิ้งไว้โดยไม่มีการควบคุม ความดัน กับการออกกำลังกาย อาจนําไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตเสียหาย และสูญเสียการมองเห็น มันทําให้หัวใจเครียดมากขึ้นทําให้ทํางานหนักขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้อาจทําให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจล้มเหลว

Report this page